Wmo ระบุว่า ระดับความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลกเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มสูงขึ้น 50%.


บรรยากาศของโลกประกอบด้วยก๊าซต่าง ๆ โดยก๊าซหลักที่อยู่ในบรรยากาศ ประกอบด้วย ก๊าซไนโตรเจนมีปริมาณมากที่สุดคิดเป็น 78.08% ก๊าซออกซิเจนคิดเป็น 20.95% ก๊าซอาร์กอนคิดเป็น. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเผาไหม้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิง โรงงานอุตสาหกรรม การเผาป่าเพื่อใช้พื้นที่สำหรับอยู่อาศัยและการทำปศุสัตว์. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (co2) เป็นก๊าซที่มีอยู่ในธรรมชาติประมาณร้อยละ 0.03 โดนปริมาตรบริเวณเหนือมหาสมุทรในเขตเมืองมีปริมาณเพิ่มเป็นประมาณร้อยละ 0.06.

เมื่อปีที่แล้ว มนุษยชาติยังคงปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 31 พันล้านตัน จากแหล่งพลังงานอื่นๆ เช่น รถยนต์ โรงงานถ่านหิน.


คาร์บอนไดออกไซด์ ในปี 1950 นักสมุทรศาสตร์กลุ่มเล็กๆ และนักธรณีเคมีได้โต้เถียงกันเป็นเวลานานว่าอุตสาหกรรมของมนุษย์. เมื่อปีที่แล้ว ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งทศวรรษที่ผ่านมา คือที่ 407.8 ส่วนในล้านส่วน (ppm). การเกิดปรากฏการณ์ทะเลกรด ปรากฏการณ์ทะเลกรด เกิดจากมหาสมุทรดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (co 2) ปริมาณมหาศาลจากชั้นบรรยากาศโลก.

ถ้าเราได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปปริมาณมากๆนั้นจะทำให้เลือดเป็นกรดและกระตุ้นระบบหายใจให้หายใจเร็วขึ้นจึงทำให้หัวใจเต้นเร็ว และกดสมอง และ ทำให้หมดสติ ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงในจุดที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ.


คาร์บอนไดออกไซด์ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศมีน้อยมากคือประมาณ 0.03 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เนื่องจากพืชจะต้องใช้ก๊าซชนิดนี้ในการสังเคราะห์แสงเป็น carbon source. ถ้าเราได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปปริมาณมากๆนั้นจะทำให้เลือดเป็นกรดและกระตุ้นระบบหายใจให้หายใจเร็วขึ้นจึงทำให้หัวใจเต้นเร็ว และกดสมอง และ ทำให้หมดสติ ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงในจุดที่มี ก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์ และ. ปรากฏการณ์ ocean acidification หรือ ปรากฏการณทะเลกรด นั้นเกิดขึ้นเนื่องมาจากปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มสูงขึ้น ลงไปละลายอยู่ในน้ำทะเล.

ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก ก่อนหน้านี้ที่มี รายงาน จากสถาบัน American Meteorological Society ออกมาว่า.